วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิธีการโปรโมทสินค้า แบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก

          ไม่ว่าจะเป็นธุรการประเภทไหนย่อมต้องการให้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มคนที่สนใจด้วยกันทั้งสิ้น คงไม่มีใครที่เปิดบริษัทมาโดยไม่หวังผลกำไร หรือไม่หวังที่จะทัดเทียบคู่แข่งถึงแม้จะเป็นคู่แข่งรายใหญ่หรือรายเล็กก็ตาม ซึ่งกลวิธีที่ใช้สำหรับโปรโมทสินค้ามีหลายวิธีด้วยกัน ตัวอย่างเช่น
  1. การลงโฆษณาด้วยภาพเคลื่อนไหวบนสื่อทีวี โดยใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นที่รู้จัก หรือมีเนื้อหาที่กระตุ้นความสนใจอาจเป็นเสียงเพลง หรือคำพูดที่ติดปาก
  2. การลงป้ายโฆษณาในที่สาธารณะ ที่มีผู้คนพรุกพรานเพื่อให้เกิดความชินตา เช่น ป้ายรถเมย์ ตึก รถเมล์ สถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง
  3. การแจกแผ่นพับ หรือใบปลิว ด้วยการจัดเรียงถ้อยคำที่สละสลวย เพื่อดึงดูดใจ และเป็นการเชิญชวนให้มีผู้ให้ความสนใจได้เข้ามาใช้บริการ หรือติดตามสินค้าเพื่อทดลองใช้

        ซึ่งทั้งสามวิธีโปรโมทที่ได้พูดมาอาจไม่ได้เฉพาะ เจาะจงไปถึงกลุ่มลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการลงสื่อที่ไม่สามารถทราบผลการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าได้เลย ซึ่งเรามีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและวัดประเมินผลจากจำนวนผู้ให้วามสนใจได้ นั้นคือ

    •   การโปรโมทเว็บไซต์ด้วยวิธีการทำ seo และ adword โดยใช้กลุ่มคำเป็นตัวเชื่อมโยงให้ผู้ที่มีความสนใจจริงได้ทำการเสิร์ทหา และเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา แต่สิ่งสำคัญได้แก่ การเขียนเนื้อหาที่ต้องถูกใจทั้งผู้อ่านและกูเกิ้ลบอทที่เข้ามาเก็บข้อมูลด้วย

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิธีการจองห้องพักกับทางโรงแรม

    การจองห้องพักของโรงแรมหรือรีสอร์ทต่างๆเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะต้องทำก่อนตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว หากตัวนักท่องเที่ยวไม่สามารถหาที่พัก เช่น บ้าน คอนโดฯ หรืออพาร์ทเม้นท์ของคนรู้จักได้ เพื่อความสะดวกสบายในการท่องเที่ยว ยกเว้นแต่ว่าจะเดินทางแบบแบ็กแพ็ค...ค่ำไหนนอนนั่น
  1. การจองห้องพักหน้าฟร้อนท์ของโรงแรม เป็นวิธีการจองห้องพักที่เสี่ยงมาก เพราะนักท่องเที่ยวไม่มีทางรู้ว่า ทางโรงแรมจะมีห้องพักแบบไหนบ้าง จะมีห้องว่างให้เช็คอินหรือไม่ ราคาค่าห้องต่อคืนเท่าไร ทางโรงแรมจะคิดค่าบริการอะไรอย่างไรบ้าง เป็นต้น การหาที่พักเอาดาบหน้าแบบนี้ ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าทำจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเที่ยวไม่สนุก เพราะต้องมาเครียดเรื่องไม่มีที่พัก
  2. การจองผ่านทางโทรศัพท์ ดีกว่าแบบแรกตรงที่อย่างน้อยก็โทรฯไปสอบถามรายละเอียดกับทางโรงแรมก่อนจะตัดสินใจเข้าพัก แต่ต้องระวังในการสื่อสารกันให้ดี อีกอย่างคืออาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย เช่น การบันทึกข้อมูลของลูกค้าผิดพลาดของพนักงานโรงแรม และแม้จะสอบถามกับทางโรงแรม ลูกค้าก็อาจยังได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ยังไม่เพียงพอ
  3. การจองผ่านเว็บไซต์รับจองห้องพัก ถือเป็นการจองห้องพักที่สะดวก เพราะเป็นการจองห้องพักแบบออนไลน์ การส่งต่อข้อมูลถึงกันระหว่างเว็บไซต์รับจองกับทางโรงแรมรวดเร็ว แต่การดำเนินการหลังจากที่เราจองอาจช้า เพราะเว็บไซต์รับจองห้องพักเหล่านี้ต้องรับจองห้องพักของโรงแรมหลายๆแห่ง ดังนั้นข้อมูลการสั่งจองห้องพักกับทางโรงแรมที่เราจะไปพักอาจช้า และมีสิทธิ์เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย
  4. การจองผ่านระบบจองห้องพักของทางโรงแรมโดยตรง เป็นวิธีการจองห้องพักที่ดีที่สุด เพราะข้อมูลการสั่งจองกับทางโรงแรมจะไม่ต้องผ่านคนกลาง ทำให้การดำเนินการส่งข้อมูลการสั่งจองของเราไปถึงทางโรงแรมอย่างแน่นอน ไม่มีการตกหล่น ทำให้การสั่งจองห้องพักเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลารอการดำเนินการและกังวลกับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับการจอง ยิ่งกว่านั้นการจองในลักษณะนี้ยังทำให้ลูกค้ามีข้อมูลของทางโรงแรมที่น่าเชื่อถือและมากเพียงพอที่ใช้ตัดสินใจในการจองห้องพักอีกด้วย